ตอนที่ 2
ความงามตามธรรมชาติของชินชู ถูกแสดงออกผ่านนาฬิกา
ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจนักที่กลไกซึ่งรวบรวมกระแสอันเงียบสงบตามธรรมชาติของกาลเวลา จะถูกสร้างขึ้นในภูมิภาคที่เต็มไปด้วยความงดงามของธรรมชาติ บรรดานาฬิกาสปริงไดรฟ์ของ Grand Seiko ได้แสดงให้เห็นถึงความผูกพันกับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติของชินชู อันเป็นสถานที่ที่นาฬิกาเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นมาและเป็นสถานที่ที่เหล่าผู้สร้างค้นหาแรงบันดาลใจให้กับพวกเขามาตั้งแต่แรกเริ่ม
ทั้งหมดนี้เริ่มต้นขึ้นจากกลไกสปริงไดรฟ์ 9R คาลิเบอร์แรกซึ่งเปิดตัวใน ค.ศ.2004 ราว 27 ปีหลังจากแนวคิดเกี่ยวกับระบบสปริงไดรฟ์ได้เกิดขึ้นมา ในด้านของการใช้งานแล้ว 9R65 ซึ่งยังคงเป็นคาลิเบอร์หลักในแค็ตตาล็อกของ Grand Seiko ถือเป็นพัฒนาการที่ก้าวล้ำ และเป็นครั้งแรกของกลไกสปริงไดรฟ์ ที่มากับการขึ้นลานโดยอัตโนมัติและให้พลังงานสำรองได้นานถึง 3 วันเต็มโดยมอบความแม่นยำให้ถึง ±15 วินาทีต่อเดือน และในแง่ของสุนทรียภาพนั้น แพลตฟอร์ม 9R ก็เป็นผู้เริ่มต้นประเพณีในการอ้างอิงภูมิศาสตร์และธรรมชาติของชินชูในการออกแบบ
เมื่อมองผ่านฝาหลังกรุกระจกใสเข้าไปก็จะพบเห็นสะพานจักรและขบวนเฟืองของคาลิเบอร์ 9R65 ที่ถูกปรับแต่งให้คล้ายกับรูปลักษณ์ของทิวเขาโฮทากะ ซึ่งมองเห็นได้ในระยะไกลจาก ชินชู วอทช์ สตูดิโอ อันเป็นสถานที่ผลิตนาฬิกาสปริงไดรฟ์
ด้วยการใช้กลไกคาลิเบอร์นี้ SBGA005 ซึ่งเป็นนาฬิกาลิมิเต็ด เอดิชั่น ผลิตจำนวนจำกัด จากปีแรกของคาลิเบอร์ 9R ได้เปิดตัวออกมาด้วยลวดลายหน้าปัดที่ได้รับแรงบันดาลใจจากต้นสนที่ตัดจากภูเขาใกล้เคียงเพื่อใช้สำหรับเทศกาลออนบาชิระ ด้วยประวัติศาสตร์ที่ย้อนกลับไปมากกว่า 1 พันปี เทศกาลนี้ได้ถูกจัดขึ้นทุก ๆ 6 ปีในท้องถิ่นซูวะ หน้าปัดรูปแบบนี้เป็นผู้บุกเบิกลักษณะการตกแต่งหน้าปัดที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติของ Grand Seiko และลวดลายนี้ก็ถูกสืบทอดมาสู่นาฬิกาลิมิเต็ด เอดิชั่น SBGC017 ที่สร้างขึ้นในปี 2016 ซึ่งเป็นปีที่มีการฉลองเทศกาลออนบาชิระ
หนึ่งในสิ่งน่าสนใจชิ้นล่าสุดเกี่ยวกับโลกธรรมชาติของชินชู ก็คือ SLGA021 ที่ขับเคลื่อนด้วยกลไกสปริงไดรฟ์ พลังงานสำรอง 5 วัน คาลิเบอร์ 9RA2 ด้วยหน้าปัดที่นำแรงบันดาลใจมาจากทะเลสาบซูวะที่อยู่ใม่ไกล ในช่วงเวลาเช้าตรู่ก่อนรุ่งสาง ซึ่งจะปรากฎลอนคลื่นอันอ่อนโยนอยู่บนผืนน้ำอันเงียบสงบแห่งนี้ นี่เป็นฉากทัศน์ยามเช้าอันเงียบสงบที่อาจนำมาจากภาพถ่ายของชาวเมืองซูวะ หรือบางทีก็อาจเป็นนักประดิษฐ์นาฬิกาของ Grand Seiko เองที่มีโอกาสได้เห็นในขณะที่เขากำลังเดินทางมาทำงานเพื่อผลิตนาฬิกาที่ดีที่สุดเท่าที่เขาสามารถทำได้ แม่พิมพ์ที่ใช้ทำหน้าปัดนาฬิการุ่นนี้ถูกสร้างขึ้นด้วยมือโดยใช้ทักษะของช่างฝีมือซึ่งกระทำการด้วยค้อนและเครื่องมือชนิดต่าง ๆ
กลไกไขลาน 9R02 ผลผลิตจากไมโคร อาร์ติสท์ สตูดิโอ ที่การตกแต่งมีการอ้างอิงถึงสัญลักษณ์ของเมืองที่ทางสตูดิโอตั้งอยู่นั้น เมื่อรวมเข้ากับระบบ ทอร์ค รีเทิร์น ซิสเต็ม ซึ่งเป็นระบบส่งกลับแรงบิดแล้ว ตลับลานที่มีสปริงลาน 2 ชุดจัดวางตำแหน่งขนานกัน จะมอบพลังงานสำรองได้ถึง 84 ชั่วโมง ในขณะที่มีการนำรูปร่างของดอกระฆังซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งเมืองชิโอจิริ มาใช้กับฝาครอบตลับลาน โดยที่บริเวณแนวขอบของร่องฉลุทั้งสามซึ่งประกอบรวมกันเป็นดอกระฆังนั้นถูกทำให้มีความโค้งและทำการขัดเงาด้วยมือ
เกือบ 3 ทศวรรษของการวิจัยและพัฒนาได้นำพาให้กลไก Grand Seiko คาลิเบอร์ 9R มาถึงจุดสูงสุด จากการขับเคลื่อนด้วยสปริงลานแต่ควบคุมความแม่นยำในการทำงานด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงของวงจรรวมและอุปกรณ์สั่นผลึก คาลิเบอร์ 9R ได้ผสมผสานประเพณีและงานฝีมือของการผลิตนาฬิกาจักรกลเข้ากับความแม่นยำของเทคโนโลยีล่าสุดของการบอกเวลา ในนาฬิกาที่ขับเคลื่อนด้วยกลไก 9R นั้น เข็มวินาทีที่โดดเด่นได้สะท้อนถึงกระแสธรรมชาติแห่งกาลเวลา ในขณะที่ดีไซน์ของหน้าปัดและกลไกแสดงถึงความงดงามทางธรรมชาติที่มีลักษณะเฉพาะตัวของชินชู
ดีไซน์หน้าปัดและกลไกเหล่านี้เป็น 2 แนวทางที่ Grand Seiko กระชับความสัมพันธ์ระหว่างนาฬิกากับภูมิภาคอันเป็นสถานที่ในการผลิตนาฬิกาเหล่านี้ขึ้นมา และทำหน้าที่เชื่อมโยงอย่างยั่งยืนระหว่างช่างฝีมือทั้งบุรุษและสตรี กับนาฬิกาที่พวกเขาสร้างขึ้นอย่างพิถีพิถัน จากแนวพื้นลาดที่มีสายลมพัดผ่านของทิวเขาโฮทากะไปจนถึงชายฝั่งทะเลของทะเลสาบซูวะ สถานที่และภูมิทัศน์ที่สวยงามเหล่านี้เป็นแรงบันดาลใจให้กับนาฬิกาสปริงไดรฟ์ 9R ของ Grand Seiko