หน้าปัดใหม่ที่เปลี่ยนสีได้ บันทึกเฉดสีที่แปรเปลี่ยนแห่งทัศนียภาพ
ยามพระอาทิตย์ขึ้นของชินชู ตัดกับภูมิทัศน์ของโฮตากะ
ทิวเขาโฮตากะอันกว้างใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ในภูมิภาคชินชู ทางตอนกลางของประเทศญี่ปุ่น เป็นแหล่งที่นาฬิกา Grand Seiko สปริงไดรฟ์ ทุกเรือนถูกสร้างขึ้นมา แสงอาทิตย์ที่สะท้อนภาพภูมิทัศน์อันสูงตระหง่านในยามรุ่งสาง ก่อให้เกิดทิวทัศน์ภูเขาอันงดงามพร้อมสีสันอันแจ่มใสที่แปรเปลี่ยนจากสีชมพูไปเป็นสีส้มเมื่อเวลายามเช้าดำเนินไป
ค.ศ.2024 ถือเป็นวาระครบรอบ 20 ปี แห่งการถือกำเนิดของนาฬิกา Grand Seiko รุ่นแรกที่ขับเคลื่อนด้วยกลไกสปริงไดรฟ์ ซีรี่ส์ 9R ซึ่งมอบพลังงานให้แก่นาฬิกา Grand Seiko สปริงไดรฟ์ ทุกรุ่นทุกแบบ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองความสำเร็จครั้งสำคัญนี้ นาฬิกาสปริงไดรฟ์ โครโนกราฟ GMT รุ่นใหม่ที่นำแรงบันดาลใจมาจากภูมิทัศน์ทิวเขาแห่งนี้ในฤดูร้อน จึงถือกำเนิดขึ้นมา นาฬิการุ่นนี้เกิดขึ้นได้ด้วยกระบวนการสร้างพื้นผิวหน้าปัดด้วยเทคโนโลยีใหม่ ที่แสดงให้เห็นถึงความซาบซึ้งของชาวญี่ปุ่นที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงอันละเอียดอ่อนของกาลเวลา ในแง่ของสีสันที่แปรเปลี่ยนไปในยามเช้าของฤดูร้อน ณ สถานที่พิเศษแห่งนี้
เทคนิคใหม่ของการผลิตหน้าปัด
ยามเช้าของฤดูร้อน ในช่วงเวลา 30 นาทีก่อนและหลังพระอาทิตย์ขึ้นนั้น พระอาทิตย์จะสาดแสงส่องไปยังยอดเขาของทิวเขาโฮตากะในลักษณะที่มีความพิเศษ หน้าปัดที่เปลี่ยนสีได้ซึ่งแสดงถึงภาพทัศน์แห่งชั่วขณะนี้ เกิดขึ้นได้ด้วยกระบวนการเคลือบหน้าปัดที่ได้รับการจดสิทธิบัตรแล้ว ซึ่งเรียกว่า “Optical Multilayer Coating” (ออปติคัล มัลติเลเยอร์ โคทิง) อันเป็นการเคลือบแบบหลายชั้นด้วยแสง แทนที่จะใช้เทคนิคแบบเดิม ๆ ในการทำสีบนหน้าปัด เทคโนโลยีใหม่นี้เป็นการใช้กระบวนการสะสมไอทางกายภาพ ซึ่งฟิล์มบาง ๆ ในระดับนาโนหลายชั้นจะสร้างเอฟเฟ็กต์ขึ้นมา ทำให้หน้าปัดสามารถแสดงเฉดสีแตกต่างกันได้โดยขึ้นอยู่กับมุมมอง และเมื่อผสมผสานเข้ากับการเคลื่อนที่อย่างเงียบสงบของเข็มวินาทีแล้ว การแปรเปลี่ยนสีของหน้าปัดจะทำให้เกิดมิติใหม่แก่แนวคิดเกี่ยวกับธรรมชาติของกาลเวลา
แสดงคุณค่าอันเป็นนิรันดร์ของ Grand Seiko ทั้งในด้านฟังก์ชั่นการใช้งานและความสวยงาม
รุ่นใหม่ล่าสุดของ สปริงไดรฟ์ โครโนกราฟ GMT มากับดีไซน์ตัวเรือนเชิงมุมอันทรงพลังที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสิงโต อันเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์มาตั้งแต่การถือกำเนิดของนาฬิกา Grand Seiko รุ่นแรกเมื่อ ค.ศ.1960 สิงโต ซึ่งมีความหมายเช่นเดียวกับความแข็งแกร่งและความกล้าหาญ เป็นตัวแทนแห่งเป้าหมายของทีมงานคณะแรกที่เป็นผู้สร้างสรรค์ Grand Seiko ขึ้นมา ซึ่งก็คือ การสร้างนาฬิกาที่ดีที่สุดเท่าที่พวกเขาสามารถกระทำได้ทั้งในแง่ของความเที่ยงตรง ความชัดเจนในการดูเวลา ความทนทาน และความสวยงาม และคุณค่าเหล่านี้ก็ยังคงอยู่ตราบจนทุกวันนี้ ลักษณะของสิงโตจึงปรากฎให้เห็นในทุกรายละเอียดของนาฬิการุ่นใหม่นี้ ยกตัวอย่างเช่น เหลี่ยมมุมของตัวเรือน และขาตัวเรือนที่มีลักษณะคล้ายกรงเล็บ และการปัดลายเส้นละเอียดแบบแฮร์ไลน์บนขาตัวเรือนที่สร้างความเปรียบต่างกับพื้นผิวขัดเงาแบบซารัตสึ
การกันน้ำได้ถึง 20 บาร์ของนาฬิการุ่นนี้ เป็นการกระทำเพื่อให้มั่นใจถึงประสิทธิภาพระดับสูงสุดในทุกลักษณะการใช้งานของนาฬิกาสปอร์ต เข็มชั่วโมงกับเข็มนาทีที่ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มความสามารถในการอ่านค่า และหลักชั่วโมงที่มีขนาดกว้างใหญ่ ช่วยเสริมความสามารถในการอ่านค่าเวลาที่เหนือกว่า อันเป็นคุณสมบัติที่เลื่องลือของ Grand Seiko ตัวเรือนและสายถูกทำขึ้นจากไทเทเนียมชนิดความหนาแน่นสูง ซึ่งเบากว่าสเตนเลสสตีลราว 30% และมีสีที่สว่างกว่า สายนาฬิกาถูกออกแบบมาเพื่อมอบความสบายในการสวมใส่ ด้วยข้อสายรูปอักษร H ขนาดหนาซึ่งรับกับข้อมือทุกขนาดได้อย่างง่ายดาย เข็มชั่วโมงและเข็มนาที ตลอดจนหลักชั่วโมง ถูกเคลือบด้วยลูมิไบรท์ ที่เรืองแสงเป็นสีเขียว ในขณะที่เข็ม GMT และเลขชั่วโมงบนวงขอบตัวเรือนจะเรืองแสงเป็นสีฟ้า เพื่อเพิ่มความชัดเจนให้กับการอ่านค่าเวลาในความมืด
นาฬิการุ่นนี้ขับเคลื่อนด้วยกลไก สปริงไดรฟ์ โครโนกราฟ GMT คาลิเบอร์ 9R96 ซึ่งเป็นคาลิเบอร์ 9R86 ในเวอร์ชั่นที่ได้รับการปรับแต่งมาเป็นพิเศษ กลไกคาลิเบอร์ 9R96 นี้ มอบความแม่นยำถึง ±10 วินาทีต่อเดือน หรือ ±0.5 วินาทีต่อวัน ซึ่งเหนือกว่า ±15 วินาทีต่อเดือนของกลไก สปริงไดรฟ์ โครโนกราฟ GMT คาลิเบอร์ 9R86 อันเป็นกลไกคาลิเบอร์หลักของคอลเลกชั่น
นาฬิการุ่นใหม่นี้ถูกผลิตขึ้นแบบ ลิมิเต็ด เอดิชั่น ด้วยจำนวนจำกัดเพียง 700 เรือนเท่านั้น โดยจะมีจำหน่ายที่บูติกของ Grand Seiko และผู้แทนจำหน่ายบางแห่งทั่วโลก ในเดือนกรกฎาคม 2024
Grand Seiko Sport Collection
Caliber 9R 20th Anniversary Limited Edition: SBGC275
สปริงไดรฟ์ โครโนกราฟ GMT คาลิเบอร์ 9R96
ระบบขับเคลื่อน: อัตโนมัติ
ความแม่นยำ: ±10 วินาทีต่อเดือน (±0.5 วินาทีต่อวัน)
พลังงานสำรอง: 72 ชั่วโมง
เข็ม GMT
จับเวลาได้สูงสุด 12 ชั่วโมง
จำนวนทับทิม: 50
รายละเอียดทางเทคนิค
ตัวเรือนและสายไทเทเนียม ชนิดความหนาแน่นสูง
ตัวล็อกแบบบานพับ 3 ทบ ปลดล็อกด้วยปุ่มกด ล็อกแบบนิรภัย และตัวปรับเพิ่มความยาว
กระจกหน้าปัดแซพไฟร์คริสตัล ทรงโค้ง 2 ฝั่ง เคลือบสารกันแสงสะท้อน
ฝาหลังชนิดขันเกลียว กรุกระจกใส
เม็ดมะยมชนิดขันเกลียว
การกันน้ำ: 20 บาร์
ความต้านทานแม่เหล็ก: 4,800 แอมแปร์/เมตร
เส้นผ่านศูนย์กลาง: 44.5 มม. ความหนา 16.8 มม.
ราคาจำหน่าย 477,000 บาท
ลิมิเต็ด เอดิชั่น ผลิตจำนวนจำกัด 700 เรือน
For further information:
https://www.grand-seiko.com/global-en/collections/sbgc275g
Note:
The specifications and price information in this release are as of the published date and are subject to change.