ฉลอง 55 ปีให้กับดีไซน์ Grand Seiko Style ด้วยงานสร้างสรรค์ครั้งใหม่
ของเรือนเวลา Spring Drive ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากพระจันทร์เหนือภูเขาชินชู

 

เรือนเวลา 44GS จาก ค.ศ.1967 คือ เรือนเวลาที่เป็นศูนย์รวมแห่งหลักการออกแบบที่รู้จักกันในชื่อ “Grand Seiko Style” ซึ่งประกอบด้วยหลักการ 9 ประการที่ทำให้ Grand Seiko มีรูปลักษณ์ที่โดดเด่นและยังคงเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์เรือนเวลารุ่นใหม่ ๆ มาจนถึงปัจจุบัน และบัดนี้ก็เป็นโอกาสที่เรือนเวลา Spring Drive รุ่นใหม่ที่ผลิตจำนวนจำกัด จะได้ร่วมเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 55 ปีให้กับอัตลักษณ์สำคัญแห่งประวัติศาสตร์ของ Grand Seiko ด้วยรุ่น The 44GS 55th Anniversary Limited Edition 

พระจันทร์ ภูเขา และความสงบของท้องฟ้ายามค่ำคืน

หน้าปัดสีน้ำเงินเข้มของเรือนเวลารุ่นนี้ เป็นการนำเสนอความงดงามของทัศนียภาพอันน่าหลงใหลของพระจันทร์เต็มดวงบนท้องฟ้ายามค่ำคืนเหนือภูเขาชินชู ที่สามารถมองเห็นได้จาก Shinshu Watch Studio ซึ่งเป็นสถานที่แห่งการสร้างสรรค์เรือนเวลารุ่นนี้ รวมถึงเรือนเวลา Grand Seiko Spring Drive ทุกรุ่น ลวดลายหน้าปัด แบบ Sunray Pattern สามารถสะท้อนความงามจากทุกมุมที่แสงตกกระทบทำให้หน้าปัดของนาฬิกาเรือนนี้เกิดประกายระยิบระยับดุจพระจันทร์ที่ส่องสว่าง ณ จุดสูงสุดบนท้องฟ้า ส่วนเข็มวินาทีที่เคลื่อนแบบ Glide Motion อันเป็นลักษณะเฉพาะตัวแห่งระบบ Spring Drive นั้นงดงามด้วยสีทอง ขณะที่เข็มวินาทีเคลื่อนอย่างเงียบสงบไปรอบหน้าปัดอันกว้างใหญ่เสมือนเป็นการถ่ายทอดภาพความยิ่งใหญ่ของท้องฟ้ายามค่ำคืน เพื่อนำพาผู้สวมใส่เข้าใกล้ธรรมชาติอันเงียบสงบกาลเวลามากกว่าที่เคย เข็มนาทีและเข็มวินาทีถูกดัดโค้งด้วยมือให้โน้มตัวลงอย่างอ่อนโยนสู่สเกลนาทีบนบริเวณส่วนขอบของหน้าปัดเพื่อช่วยเพิ่มความชัดเจนแม่นยำในการดูเวลา เรือนเวลารุ่นนี้มาพร้อมกับสายหนังจระเข้สีน้ำเงินเข้มที่กลมกลืนสอดคล้องกับโทนสีของหน้าปัดโดยสมบูรณ์

ผลงานสร้างสรรค์ครั้งใหม่นี้ขับเคลื่อนด้วยกลไก Spring Drive ขึ้นลานด้วยมือ คาลิเบอร์ 9R31 ซึ่งมากับนวัตกรรมสปริงลาน 2 ชุดวางตำแหน่งขนานกัน ทำให้สามารถสำรองพลังงานได้ถึง 72 ชั่วโมง ความบางของกลไกคาลิเบอร์นี้ โครงสร้างตัวเรือนที่เพรียวบาง และกระจกแซพไฟร์คริสตัลทรงกล่อง ถูกผสานเข้าด้วยกันเพื่อให้ช่างฝีมือทั้งบุรุษและสตรีแห่งสตูดิโอเรือนเวลาชินชู สร้างสรรค์ดีไซน์อันเพรียวบางและคลาสสิกที่ถ่ายทอดจิตวิญญาณของ 44GS รุ่นดั้งเดิมและทำให้มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำเพื่อมอบความสบายสูงสุดให้กับข้อมือได้ในขณะเดียวกัน

เรือนเวลารุ่นนี้นำเสนอในแบบจำนวนจำกัดเพียง 1,500 เรือน โดยมีหมายเลขประจำเรือนและข้อความ “Limited Edition” (ลิมิเต็ด เอดิชั่น) สลักอยู่บนฝาหลัง

ผลงานชิ้นใหม่จากคอลเลกชั่น Heritage (เฮอริเทจ) รุ่นนี้จะเริ่มวางจำหน่ายในเดือนสิงหาคม ณ บูติก Grand Seiko และผู้แทนจำหน่ายที่ได้รับการคัดเลือกทั่วโลก

พบกับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Grand Seiko Style ได้ที่
https://www.grand-seiko.com/th-th/about/design