Grand Seiko คอลเลกชั่น Evolution 9 ขยายไลน์อัพ สู่เรือนเวลาสปอร์ต
คอลเลกชั่น Evolution 9 (เอโวลูชั่น ไนน์) ผู้เป็นตัวแทนแห่งอนาคตของ Grand Seiko (แกรนด์ ไซโก) ได้นำดีไซน์แบบ Grand Seiko Style (แกรนด์ ไซโก สไตล์) อันเป็นแรงบันดาลใจให้กับทุกการสร้างสรรค์ของ Grand Seiko ตั้งแต่ ค.ศ.1967 เป็นต้นมา มาเป็นพื้นฐานในการออกแบบโดยนำพาความชัดเจนในการอ่านค่าและความสบายในการสวมใส่ไปสู่ระดับใหม่ หนึ่งในเรือนเวลารุ่นแรกจากคอลเลกชั่น Evolution 9 ได้แก่ รุ่นไฮ-บีท 36000 พลังงานสำรอง 80 ชั่วโมงซึ่งได้รับรางวัลเรือนเวลาสำหรับบุรุษจาก Grand Prix d’Horlogerie de Genève (กรังด์ปรีซ์ ดอร์โลเฌรี เดอ เฌแนฟ) ประจำ ค.ศ.2021 บัดนี้ขอบเขตแห่งคอลเลกชั่น Evolution 9 ได้ขยายไลน์อัพสู่เรือนเวลาสไตล์สปอร์ตด้วยเรือนเวลา Spring Drive (สปริง ไดรฟ์) แนวสปอร์ต 5 รุ่นใหม่ ได้แก่ เรือนเวลา GMT 2 รุ่น เรือนเวลาโครโนกราฟพร้อมฟังก์ชั่น GMT 2 รุ่น และเรือนเวลาดำน้ำ 200 เมตรอีก 1 รุ่น
ในขณะที่คุณลักษณะแห่งดีไซน์แบบ Grand Seiko Style ปรากฏชัดอยู่ในร่างของเรือนเวลาเหล่านี้ การปรับแต่งด้วยคุณลักษณะแห่งดีไซน์แบบ Evolution 9 ก็มองเห็นได้ชัดเจนเช่นกันด้วยแนวส่วนขาตัวเรือนที่กว้างกว่า สายนาฬิกาและตัวเรือนที่มีความแข็งแกร่งมากกว่า และจุดศูนย์ถ่วงที่อยู่ในระดับต่ำเพื่อเสริมสร้างความสบายและความกระชับแก่ข้อมือ อีกทั้งเข็มนาฬิกาแต่ละเข็มยังดูโดดเด่นและมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนกว่าที่เคยเพื่อให้อ่านค่าได้ง่ายยิ่งขึ้น ส่วนตัวเลขบนวงขอบตัวเรือนก็เป็นฟอนต์อักษรแบบใหม่ที่พัฒนาขึ้นสำหรับคอลเลกชั่น Evolution 9 โดยเฉพาะ
ตัวเรือนและสายถูกสร้างขึ้นจากไทเทเนียมชนิดความหนาแน่นสูงซึ่งเบากว่าสเตนเลสสตีลอยู่ราว 30% และมีโทนสีผิวที่สว่างกว่า เข็มและชิ้นหลักชั่วโมงถูกเคลือบด้วยสารเรืองแสง Lumibrite (ลูมิไบรท์) อย่างเต็มที่เพื่อเพิ่มความชัดเจนให้กับการอ่านค่าในเวลากลางคืน บ่าปกป้องเม็ดมะยมได้รับการออกแบบมาอย่างพิถีพิถันเพื่อมิให้เกิดการสะดุดกับแขนเสื้อทั้งในชุดสำหรับกิจกรรมกีฬาประเภทต่าง ๆ และชุดสำหรับสวมใส่ในชีวิตประจำวัน
Spring Drive วิถีที่สมบูรณ์แบบในการสัมผัสกับธรรมชาติของเวลา
ด้วยเข็มวินาทีที่ขยับเคลื่อนอย่างราบรื่นไม่เหมือนใคร เรือนเวลา Spring Drive จึงสะท้อนถึงการเคลื่อนผ่านของกาลเวลาที่ต่อเนื่อง เงียบสงบ และราบรื่น ได้เป็นอย่างดี การชมเข็มวินาทีที่เคลื่อนตัวไปรอบหน้าปัดอย่างสงบเงียบไร้ซึ่งเสียง ‘ติ๊ก’ ใด ๆ นำพาให้เข้าใกล้กับธรรมชาติของเวลาได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ความรู้สึกเช่นนี้สัมผัสได้จากเรือนเวลา Spring Drive GMT โดยหนึ่งใน 2 รุ่นใหม่นี้มากับหน้าปัดสีเทาอ่อนบนพื้นผิวที่งดงามด้วยลวดลายซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากหมอกยามเช้าในฤดูหนาวในภูมิภาคชินชู ซึ่งเป็นลางบอกว่าเป็นวันที่มีแสงแดดเจิดจ้า โดยชินชูนั้นเป็นที่ตั้งของสตูดิโอที่เป็นแหล่งผลิตของเรือนเวลา Grand Seiko Spring Drive ทุกเรือน
เรือนเวลา Spring Drive GMT ทั้ง 2 รุ่นจะเริ่มจำหน่ายในเดือนสิงหาคมที่บูติก Grand Seiko และผู้จำหน่าย Grand Seiko ทั่วโลก
หนึ่งในเรือนเวลาโครโนกราฟ 2 รุ่นใหม่ซึ่งเป็นรุ่นที่มากับหน้าปัดสีน้ำเงินนั้นได้รับการปรับตั้งการทำงานให้บรรลุอัตราความแม่นยำถึง ±10 วินาทีต่อเดือนเพื่อให้เป็นรุ่นพิเศษสำหรับการร่วมระลึกถึงวาระครบรอบ 15 ปีของ Grand Seiko Spring Drive Chronograph ด้วยการผลิตแบบจำนวนจำกัดเพียง 700 เรือน นอกจากคุณสมบัติการจับเวลาที่กระทำได้สูงสุดถึง 12 ชั่วโมงแล้ว เรือนเวลารุ่นนี้ยังใช้วงขอบตัวเรือนชนิดหมุนได้และมีเข็ม GMT เพื่อให้สามารถแสดงค่าของเขตเวลาที่สามได้อีกด้วย
ส่วนเรือนเวลาโครโนกราฟรุ่นใหม่อีกรุ่นหนึ่งนั้น มากับหน้าปัดสีดำที่มอบความแม่นยำในระดับ ±15 วินาทีต่อเดือน ขณะที่รายละเอียดต่าง ๆ ทั้งดีไซน์และคุณสมบัติยังคงเป็นเช่นเดียวกับรุ่นผลิตจำนวนจำกัดทุกประการ สำหรับรุ่นผลิตจำนวนจำกัดจะเริ่มจำหน่ายในเดือนมิถุนายน ส่วนรุ่นมาตรฐานจะเริ่มจำหน่ายในเดือนกรกฎาคม ที่บูติก Grand Seiko และผู้แทนจำหน่าย Grand Seiko ทั่วโลก
เรือนเวลาดำน้ำ 200 เมตร ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากกระแสน้ำ Black Stream
มหาสมุทรที่ล้อมรอบหมู่เกาะญี่ปุ่นนั้นมีกระแสน้ำที่มีพลังมหาศาลไหลผ่านมากมาย หนึ่งในนั้นก็คือ กระแสน้ำคุโรชิโอะ หรือที่รู้จักกันในนาม Black Stream (แบล็ก สตรีม) กระแสน้ำที่ไหลขึ้นไปทางเหนือผ่านประเทศญี่ปุ่นไปสู่มหาสมุทรแปซิกฟิกเหนือซึ่งเป็นหนึ่งในกระแสน้ำในมหาสมุทรที่ใหญ่ที่สุดของโลก พลังน้ำที่มีความรุนแรงในบางครั้งของกระแสน้ำ Black Stream ถูกนำมาเป็นแรงบันดาลใจให้กับสีดำสนิทและลายผิวที่สวยงามบนหน้าปัดของเรือนเวลาดำน้ำ 200 เมตรรุ่นใหม่นี้ ส่วนในด้านการขับเคลื่อนเป็นหน้าที่ของเครื่อง Spring Drive คาลิเบอร์ 9RA5 ที่มอบอัตราความเที่ยงตรงถึง ±10 วินาทีต่อเดือนและให้การสำรองพลังงานได้นานถึง 5 วัน แผ่นวงแหวนบนขอบตัวเรือนชนิดหมุนได้ถูกสร้างขึ้นจากเซรามิกเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดรอยขีดข่วน เรือนเวลารุ่นนี้จะเริ่มจำหน่ายในเดือนสิงหาคมที่บูติก Grand Seiko และผู้แทนจำหน่าย Grand Seiko ที่ได้รับการเลือกสรรทั่วโลก
Grand Seiko Evolution 9 Collection
Spring Drive GMT คาลิเบอร์ 9R66
ระบบขับเคลื่อน: อัตโนมัติ
ความเที่ยงตรง: ±1 วินาทีต่อวัน (±15 วินาทีต่อเดือน)
พลังงานสำรอง: 72 ชั่วโมง
เข็ม GMT
จำนวนทับทิม: 30
รายละเอียดทางเทคนิค
ตัวเรือนและสายไทเทเนียมชนิดความหนาแน่นสูง
กระจกหน้าปัดแซพไฟร์คริสตัลทรงกล่อง เคลือบสารกันการเกิดแสงสะท้อน
ฝาหลังแบบขันเกลียว กรุกระจกใส, เม็ดมะยมแบบขันเกลียว
การกันน้ำ: 10 บาร์
การต้านทานแม่เหล็ก: 4,800 แอมแปร์/เมตร
เส้นผ่านศูนย์กลาง: 41.0 มิลลิเมตร, ความหนา: 13.9 มิลลิเมตร
ตัวล็อกแบบ 3 ทบปลดล็อกด้วยปุ่มกด
ราคาขายปลีกแนะนำโดยประมาณสำหรับไทย: 327,100 บาท
Grand Seiko Chronograph 15th Anniversary Limited Edition (SBGC249)
Spring Drive Chronograph GMT คาลิเบอร์ 9R96 (SBGC249) 9R86 (SBGC251)
ระบบขับเคลื่อน: อัตโนมัติ
พลังงานสำรอง: 72 ชั่วโมง
ความเที่ยงตรง: ±0.5 วินาทีต่อวัน (±10 วินาทีต่อเดือน) (SBGC249)
±1 วินาทีต่อวัน (±15 วินาทีต่อเดือน) (SBGC251)
โครโนกราฟ จับเวลาได้สูงสุดถึง 12 ชั่วโมง
จำนวนทับทิม: 50
รายละเอียดทางเทคนิค
ตัวเรือนและสายไทเทเนียมชนิดความเข้มสูง
กระจกหน้าปัดแซพไฟร์คริสตัลผิวโค้งทั้ง 2 ฝั่ง เคลือบสารกันการเกิดแสงสะท้อน
ฝาหลังแบบขันเกลียว กรุกระจกใส, เม็ดมะยมแบบขันเกลียว
การกันน้ำ: 10 บาร์
การต้านทานแม่เหล็ก: 4,800 แอมแปร์/เมตร
เส้นผ่านศูนย์กลาง: 45.3 มิลลิเมตร, ความหนา: 15.8 มิลลิเมตร
ตัวล็อกแบบ 3 ทบปลดล็อกด้วยปุ่มกด
ราคาขายปลีกแนะนำโดยประมาณสำหรับไทย:
473,200 บาท (SBGC249), 446,100 บาท (SBGC251)
ผลิตจำนวนจำกัด 700 เรือน (SBGC249)
Spring Drive 5 Days คาลิเบอร์ 9RA5
ระบบขับเคลื่อน: อัตโนมัติ
พลังงานสำรอง: 5 วัน (120 ชั่วโมง)
ความเที่ยงตรง: ±0.5 วินาทีต่อวัน (±10 วินาทีต่อเดือน)
จำนวนทับทิม: 38
รายละเอียดทางเทคนิค
ตัวเรือนและสายไทเทเนียมชนิดความหนาแน่นสูง
กระจกหน้าปัดแซพไฟร์คริสตัล เคลือบสารกันการเกิดแสงสะท้อน
เม็ดมะยมแบบขันเกลียว, ฝาหลังแบบขันเกลียว
การกันน้ำ: 200 เมตร สำหรับนักดำน้ำ
การต้านทานแม่เหล็ก: 4,800 แอมแปร์/เมตร
เส้นผ่านศูนย์กลาง: 43.8 มิลลิเมตร, ความหนา: 13.8 มิลลิเมตร
ตัวล็อกแบบ 3 ทบปลดล็อกด้วยปุ่มกด, ล็อกนิรภัยและขยายความยาวได้
ราคาขายปลีกแนะนำโดยประมาณสำหรับไทย: 446,000 บาท