สุดยอดกลไกความถี่สูงกับการเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของ Grand Seiko

ในปี 1998 การสร้างสรรค์กลไก 9S และถูกส่งลงตลาดถือเป็นการเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับ Grand Seiko และในวันนี้ เหตุการณ์ในลักษณะนี้ได้เกิดขึ้นอีกครั้งกับการเปิดตัวกลไกความถี่สูงรุ่นใหม่ที่มากับรหัส 9SA5 ซึ่งการออกแบบและฟังก์ชั่นการทำงานของกลไกรุ่นนี้ได้แสดงให้เห็นถึงความล้ำสมัยที่มีความสำคัญต่อ Grand Seiko ไม่ต่างจากที่กลไก 9S รุ่นแรกได้ถูกเปิดตัวออกมา กลไกรหัส 9SA5 เป็นมากกว่ากลไกใหม่ แต่นี่คือกลไกที่ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด และมีพื้นฐานอยู่บนนาฬิกาจักรกลเจนเนอเรชั่นใหม่ของ Grand Seiko ที่กำลังจะถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาในอนาคตอันใกล้นี้ กลไก 9S5A คือสิ่งที่เกิดจากการทุ่มเททักษะและประสบการณ์ทั้งหมดที่เราสั่งสมตลอด 60 ปีที่ผ่านมา และไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือ กลไกที่ดีที่สุดเท่าที่เราเคยสร้างขึ้นมาเลยทีเดียว สำหรับตัวนาฬฺกาจะมีการผลิตออกมาเพียง 100 เรือนเท่านั้นและจะเป็นนาฬิการุ่นแรกที่ได้ใช้กลไกใหม่ชุดนี้ โดยจะมีการวางจำหน่ายที่บูติกของ Grand Seiko ในเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้

การออกแบบและฟังก์ชั่นที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว 36,000 ครั้งต่อชั่วโมง สำรองพลังงาน 80 ชั่วโมง และรูปทรงที่เพรียวบาง

ความท้าทายของช่างผลิตนาฬิกาในการสร้างเครื่องความถี่สูง คือการสร้างสมดุลระหว่างความแม่นยำ พลังงาน และขนาด โดยปราศจากข้อจำกัดเหล่านี้ ในการพัฒนาคาลิเบอร์ 9SA5 ทีมพัฒนาของแกรนด์ ไซโก มุ่งมั่นที่จะมอบความแม่นยำที่เสถียรที่สุดบนเครื่องความถี่ระดับ 36,000 ครั้งต่อชั่วโมง แต่เพื่อส่งมอบพลังงานสำรองที่ยาวนานขึ้นและทำให้นาฬิกาสามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้มากยิ่งขึ้น พวกเขาประสบความสำเร็จจากการไม่ยอมแพ้ คาลิเบอร์ 9SA5 มีอัตราความแม่นยำ +5 ถึง -3 วินาทีต่อวัน และมีอัตราสำรองพลังงาน 80 ชั่วโมง

กลไกความถี่สูงกับการเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับ Grand Seiko

ความก้าวหน้าทางเทคนิคทั้งสามที่สร้างความแตกต่างในด้านความเที่ยงตรง กำลังของกลไก และความบางของ กลไก9SA5 นั่น เป็นผลมาจากการออกแบบใหม่ในส่วนของโครงสร้างหลักทั้งสามประการ และบางชิ้นส่วนที่อยู่ในกลไกรุ่นนี้มีทั้งได้รับการจดสิทธิบัตร และยังอยู่ในตอนของการเตรียมงาน

1.ชุดจักรปล่อยแรงแบบ Dual Impulse

2.จักรกรอกของกลไก

3. ชุดเฟืองจักรที่วางตัวในแนวนอน (Horizontal Gear Train)

นอกเหนือจาก 3 ชิ้นส่วนใหม่นี้ กลไก 9SA5 ยังมาพร้อมสิ่งใหม่ๆ อย่างอื่นอีกที่มีส่วนในการช่วยยกระดับสประสิทธิภาพในการทำงานให้สูงขึ้น ถังกำลังสำรอง 2 ชุด ถูกจัดวางเรียงกันและช่วยเพิ่มระดับการเก็บกำลังสำรองให้เพิ่มขึ้น รวมถึงการเปลี่ยนวันที่ซึ่งมีการทำงานที่ฉับไวและต่อเนื่อง และตำแหน่งของชุดเข็มขึ้นลานมือที่จัดวางให้ใกล้กับโรเตอร์ของกลไกยังช่วยทำให้ตัวนาฬิกามีความบางและแนบสนิทไปกับข้อมือ

กลไกชุดนี้ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงามไม่แพ้ประสิทธิภาพในการทำงาน ตัวเรือนหลักของกลไก (Bridge) ได้รับการขัดแต่งและลบขอบมุมอย่างกลมกลืนโดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากรูปทรงของภูเขา Iwate และมีความโค้งมนเหมือนกับรูปทรงของแม่น้ำ Shizukuishi ที่ไหลผ่านใกล้กับสตูดิโอที่นาฬิกาเรือนนี้ถูกสร้างขึ้นมา

การออกแบบยุคใหม่

เช่นเดียวกับการใช้กลไกใหม่อย่าง 9SA5 การออกแบบใหม่ถือเป็นการเดินหน้าสู่ศักราชใหม่และเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงพันธะสัญญาของ Grand Seiko ในการยกระดับความสามารถของตัวเองในด้านการพัฒนาในเชิงเทคนิคให้ขึ้นไปอยู่ในอีกระดับหนึ่งจากที่เคยเป็น นอกจากนั้นการออกแบบยังนำเสนอความสวยโดดเด่นที่เป็นเครื่องหมายแสดงถึงจุดเริ่มต้นในการเดินทางครั้งใหม่ แน่นอนว่าตัวนาฬิกานั้นได้รับการสร้างสรรค์ตามแนวคิด Grand Seiko Style ที่ถูกยึดถือมาอย่างช้านาน และเป็นการสร้างขึ้นบนพื้นฐานของนิยามที่พาคุณย้อนกลับไปสู่ปี 1967 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองต่อรุ่นคลาสสิกอย่าง 44GS แต่ทว่าก็มีการแต่งเติมและเพิ่มอะไรอีกหลายสิ่งเพื่อเป็นการนำเสนอในวิถีที่แตกต่างออกไปจากเดิม การออกแบบใหม่ไม่เพียงแต่เป็นการนำเสนอจุดเด่นในทุกด้านของ Grand Seiko เท่านั้น แต่ยังยกระดับความโดดเด่นและความสะดวกสบายในยามสวมใส่อีกด้วย ความบางของกลไกมีส่วนช่วยให้นาฬิกาสามารถสวมใส่อย่างสะดวกและง่ายดาย อีกทั้งยังได้รับการผสมผสานกับขาตัวเรือนที่ถูกขยายขนานเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย ดังนั้น เมื่อสวมใส่นาฬิกาบนข้อมือจะรู้สึกได้ถึงการรัดกระชับและมั่นคงอยู่บนข้อมือ ความสะดวกในการมองเวลาบนหน้าปัดที่เป็นสิ่งที่สืบทอดต่อกันมาของนาฬิกาจาก Grand Seiko และในครั้งนี้ได้รับการยกระดับขึ้นอีกด้วยการเพิ่มขนาดของเข็มชั่วโมง และตัวหลักชั่วโมงบนหน้าปัดที่มีความโดดเด่นมากขึ้นเช่นเดียวกับนาฬิการุ่นแรกของ Grand Seiko ที่มีการเปิดตัวในปี 1960 สัญลักษณ์ของ Grand Seiko หลักชั่วโมงบนหน้าปัดและกรอบวันที่ ทั้งหมดถูกผลิตจากทองคำ 18k