ในปี 1967 มีนาฬิการุ่นใหม่รุ่นหนึ่งถูกเพิ่มเข้าสู่คอลเลกชั่นของ Grand Seiko โดยเป็นรุ่นที่หมายมั่นให้เป็นหนึ่งในงานสร้างสรรค์ที่มีความโดดเด่นสูง นาฬิการุ่นนั้นคือ 44GS นาฬิการุ่นแรกที่รวมองค์ประกอบแห่ง แกรนด์ ไซโก สไตล์ อันเป็นแนวทางการออกแบบซึ่งประกอบด้วยหลักการ 9 ประการที่ทำให้ Grand Seiko มีรูปลักษณ์ที่โดดเด่น และเต็มไปด้วยความปราณีตเอาไว้อย่างเต็มเปี่ยม ณ ปัจจุบันเป็นเวลากว่า 55 ปีแล้ว ที่นาฬิการุ่นนี้ก็ยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้แก่การสร้างสรรค์นาฬิการุ่นใหม่ ๆ มาจนถึงทุกวันนี้
SLGH013
Heritage Collection
THB 324,000.00
คุณสมบัติ
ดีไซน์ล่าสุดของ 44GS ที่มาพร้อมนวัตกรรมทั้งภายในและภายนอก
เรือนเวลาสุดพิเศษที่บรรจุกลไก Hi-Beat 36000 ดีไซน์ใหม่นี้ ได้แสดงให้เห็นถึงรูปแบบใหม่ของ แกรนด์ ไซโก สไตล์ ด้วยหน้าปัดสีฟ้าอ่อนสุดนุ่มนวลที่ใช้พื้นผิวลวดลายแปลกตาดุจหิมะที่กำลังเริ่มละลายเมื่อย่างเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ บนภูเขาอิวาเตะ ซึ่งมียอดเขาสูงตระหง่านถึง 2,038 เมตร ที่ซึ่งสามารถมองเห็นได้จากสตูดิโอชิสุกุอิชิ ของ Grand Seiko อันเป็นสถานที่ผลิตนาฬิการะบบจักรกลทุกรุ่นทุกแบบของ Grand Seiko
การประสานรวมเข้าด้วยกันของหน้าปัดที่มีความราบเรียบอย่างสมบูรณ์และแผ่กว้าง ช่วยเปิดให้แสงตกกระทบได้ง่าย เราจึงสามารถได้ชื่นชมหน้าปัดที่สวยงาม มีชีวิตชีวา สมดังความตั้งใจของดีไซน์เนอร์ที่ต้องการถ่ายทอดความงามของธรรมชาติสู่เรือนเวลาพิเศษเรือนนี้ และเมื่อผนวกกับประกายอันเจิดจ้าจากชิ้นหลักชั่วโมงและชุดเข็มที่ได้รับการขัดแต่งมาอย่างดี ขอบตัดอันคมกริบดุจใบมีดโกน การขัดเงาด้วยเทคนิคซารัตสึ มอบพื้นผิวที่เรียบเนียนและปราศจากการบิดเบือนของภาพสะท้อนอย่างสมบูรณ์แบบ หลักชั่วโมงที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกามีความกว้างเป็น 2 เท่าของหลักชั่วโมงชิ้นอื่น ๆ เพื่อให้อ่านค่าเวลาได้ง่ายไม่ว่าจะอ่านจากมุมใด ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ หน้าปัดที่เปล่งประกายอย่างระยิบระยับซึ่งยังคงมอบความชัดเจนในระดับสูง อันเป็นการแสดงถึงอัตลักษณ์ของชาวญี่ปุ่นของ Grand Seiko ที่จะถูกสืบสานตลอดไป
และถือเป็นครั้งแรกที่นาฬิการุ่นที่ไม่ใช่ Limited Edition ของ Grand Seiko นำวัสดุ Ever-Brilliant Steel* มาใช้ซึ่งไม่เพียงแค่ใช้กับตัวเรือนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสายของนาฬิกาด้วย เหล็กกล้าคุณภาพสูงชนิดนี้มีผิวที่ใสสว่างและมีความทนทานต่อการกัดกร่อนในระดับสูง ซึ่งทำให้มั่นใจได้ในเรื่องของความทนทาน วัสดุระดับสูงชนิดนี้เหมาะสมอย่างยิ่งในการใช้ร่วมกับกลไกรุ่นล่าสุดของ Grand Seiko นั่นก็คือ คาลิเบอร์ 9SA5 Automatic Hi-beat 36000 ซึ่งมอบความแม่นยำในระดับสูงที่และสามารถสำรองพลังงานได้อย่างยาวนานถึง 80 ชั่วโมง
*สเตนเลสสตีลชนิดนี้มีค่า PREN (Pitting Resistance Equivalent Number) หรือค่าความต้านทานการกัดกร่อนที่สูงกว่าเกรดของเหล็กที่ใช้กับนาฬิการะดับสูงโดยส่วนใหญ่ถึง 1.7 เท่า
*PREN เป็นมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในการใช้วัดความต้านทานต่อการกัดกร่อน
รายละเอียดทางเทคนิค
Case back: | See-through & Screw case back |
---|---|
กระจกหน้าปัด: | กระจกแซฟไฟร์คริสตัลทรงกล่อง |
การเคลือบ: | การเคลือบแบบป้องกันแสงสะท้อนที่พื้นผิวด้านใน |
ขนาดตัวเรือน: | เส้นผ่าศูนย์กลาง 40.0mm ความยาว 47.2mm ความหนา 11.7mm |
Band width: | 19mm |
บานพับ: | บานพับสามทบปลดล็อคด้วยปุ่มกด |
ปริมณฑลของสร้อยข้อมือ: | 195mm |
ตัวเครื่อง: | 9SA5 วิธีใช้งาน |
---|---|
ระบบขับเคลื่อน: | อัตโนมัติ พร้อมกลไกการไขลานแบบกำหนดเอง |
การสำรองพลังงาน: | ประมาณ 80 ชั่วโมง |
ความแม่นยำ (เมื่อไม่เคลื่อนไหว): |
-3 ถึง +5 วินาทีต่อวัน (โดยเฉลี่ย)
|
ความแม่นยำในการใช้งานตามปกติ: | -1 ถึง +8 วินาทีต่อวัน |
การกันน้ำ: | กันน้ำที่ระดับ 10 บาร์ |
---|---|
น้ำหนัก: | 4,800 A/m |
น้ำหนัก: | 154 g |
รายละเอียด / คุณสมบัติอื่น ๆ : |
|