ตอนที่ 4
การตกแต่งอันเลอเลิศของนาฬิกาจาก ไมโคร อาร์ติสต์ สตูดิโอ
ในบรรดานาฬิกาสปริงไดรฟ์ ของ Grand Seiko นั้น นาฬิกาที่เป็นผลงานจากสตูดิโอผลิตนาฬิการะดับสูง ไมโคร อาร์ติสต์ สตูดิโอ เป็นนาฬิกาที่มีชื่อเสียงมากที่สุด สตูดิโอแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อ ค.ศ.2000 โดยตั้งอยู่ภายในโรงงาน ไซโก เอปสัน ชิโอจิริ ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อสร้างนาฬิกาที่มีคุณภาพสูงที่สุด ในหมู่ผู้นิยมชมชอบนาฬิกานั้นถือว่าศูนย์รวมแห่งงานฝีมือและความเชี่ยวชาญแห่งนี้ มีสถานะอยู่ในระดับที่ใกล้จะเป็นตำนาน เพราะเป็นสถานที่ที่งานฝีมือและการประดิษฐ์นาฬิกาของชาวญี่ปุ่นถูกดำเนินการอย่างเต็มความสามารถเพื่อผลิตเรือนเวลาที่จะคงอยู่ได้ตลอดไป และสมควรได้รับการยกย่องว่าเป็นงานศิลปะแห่งเครื่องบอกเวลา
ใน ค.ศ.2016 ไมโคร อาร์ติสต์ สตูดิโอ ได้สร้างกลไกคาลิเบอร์แรกของตนสำหรับนาฬิกา Grand Seiko ขึ้นมา นั่นก็คือ คาลิเบอร์สปริงไดรฟ์ 9R01 ที่สำรองพลังงานได้ 8 วัน กลไกขึ้นลานด้วยมืออันยอดเยี่ยมคาลิเบอร์นี้ใช้ตลับลาน 3 ชุดจัดเรียงตามลำดับเพื่อให้สำรองพลังงานได้นานถึง 8 วัน และในแง่ของประสิทธิภาพการใช้งานและความสวยงามนั้น นี่คือกลไกที่มีคุณลักษณะทั้งสองอยู่อย่างเท่าเทียมกัน
การออกแบบทางวิศวกรรมของคาลิเบอร์ 9R01 ถูกกระทำเพื่อลดการเสียดสีที่นำไปสู่การสูญเสียพลังงาน อีกทั้งยังมีดีไซน์ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสถานที่สำคัญระดับแลนด์มาร์กหลายแห่งซึ่งมองเห็นได้จากที่ราบสูงทาคะบจจิ ในเมืองชิโอจิริ สะพานจักรแบบชิ้นเดียวที่ปกคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของกลไกซึ่งช่วยเสริมความทนทานนี้ มีรูปทรงคล้ายกับภูเขาฟูจิอันโด่งดังที่ผู้คนคุ้นเคย ในขณะที่บางส่วนของจักรไกลด์วีลที่ปรากฎให้เห็นนั้นมีลักษณะคล้ายกับดวงอาทิตย์ที่ถูกบดบังด้วยภูเขา ส่วนชิ้นทับทิมทั้งหลายก็เป็นการสะท้อนถึงแสงระยิบระยับแห่งเมืองสุวะ และเข็มบอกพลังงานสำรองของคาลิเบอร์นี้ก็สะท้อนถึงรูปร่างของทะเลสาบสุวะเพื่อเสริมลักษณะในภาพรวมให้ดูคล้ายกับแผนที่ อีกทั้งช่างฝีมือยังบรรจงใช้มือสร้างลายเส้นตรงที่เรียกว่าการตกแต่งแบบแฮร์ไลน์ลงบนพื้นผิวของสะพานจักรขนาดใหญ่และขัดเงาที่แนวขอบด้วยมือ ในขณะที่ชิ้นสกรูถูกนำมาผ่านความร้อนให้เป็นสีน้ำเงินอันงดงาม
คาลิเบอร์ 9R01 คือ กลไกที่ใช้กับเรือนเวลาชิ้นเอก SBGD201 ซึ่งใช้ตัวเรือนแพลทินัม 950 ที่ได้รับการขัดเงาด้วยเทคนิคซารัตสึ และมีหน้าปัดสีขาวที่เปล่งประกายอย่างงามสง่าด้วยชั้นผิวแบบหลายชั้นและใช้เทคนิคหลายชนิดในการผลิต ซึ่งทั้งหมดนี้ถูกกระทำการแบบอินเฮาส์ภายในองค์กร แผ่นหน้าปัดถูกกดประทับเพื่อสร้างลวดลายแล้วจึงชุบเคลือบด้วยนิกเกิลและเงิน จากนั้นก็ตกแต่งด้วยกระบวนการพิเศษที่พื้นผิวด้านบนสุด หลังจากนั้นจึงเคลือบด้วยชั้นผิวโปร่งใสและทำการขัดเงาเป็นขั้นตอนสุดท้าย ซึ่งทำให้หน้าปัดดูแวววาวสวยงามจากการสะท้อนของแต่ละชั้นผิวโดยขึ้นอยู่กับมุมที่แสงตกกระทบ
ความสง่างามและความงดงามดังกล่าวเกิดขึ้นได้จากช่างฝีมือของ ชินชู วอทช์ สตูดิโอ ซึ่งตั้งอยู่ภายในโรงงานชิโอจิริ เช่นเดียวกับ ไมโคร อาร์ติสต์ สตูดิโอ โดยใช้กระบวนการสร้างหน้าปัดแบบบูรณาการครบวงจรที่รวมถึงการทำแม่พิมพ์ของหน้าปัด รูปแบบการกดประทับ การชุบเคลือบ การเคลือบ การพิมพ์ และการติดตั้งหลักชั่วโมงด้วยมือ ซึ่งทั้งหมดเป็นการกระทำแบบอินเฮาส์ภายในองค์กรเอง พื้นผิวหน้าปัดที่เป็นแบบ “ฝุ่นเพชร” ซึ่งชวนให้นึกถึงยามเช้าของฤดูหนาวในภูมิภาคชินชูเช่นนี้ คู่ควรกับนาฬิกา Grand Seiko ซึ่งมากับกลไกที่ผลิตสร้างโดยช่างฝีมือของ ไมโคร อาร์ติสต์ สตูดิโอ เป็นอย่างยิ่ง
ตัวเรือนแพลทินัม 950 ผ่านการหล่อเย็นเพื่อให้มีความหนาแน่นมากขึ้นและมีพื้นผิวที่แข็งขึ้น จากนั้นจึงทำให้เกิดพื้นผิวดุจกระจกเงาที่ปราศจากการบิดเบือนซึ่งเป็นผลลัพธ์จากวิธีการขัดเงาด้วยเทคนิคซารัตสึ อันเป็นเทคนิคที่ต้องใช้เวลาในการฝึกฝนหลายปี โดยการกระทำกับวัสดุที่เป็นแพลทินัม 950 นั้นมีความยากกว่าการกระทำกับสเตนเลสสตีล เพราะการขัดเงาบนตัวเรือนของ SBGD201 ต้องกระทำด้วยเทคนิคพิเศษที่ใช้เวลามากกว่าการขัดเงาบนตัวเรือนสเตนเลสสตีลถึง 10 เท่า และเมื่อตัวเรือนของนาฬิการุ่นนี้ได้รับการขัดเงาแล้ว ตัวเรือนจะเปล่งประกายได้ด้วยตัวเอง
ใน ค.ศ.2019 ไมโคร อาร์ติสต์ สตูดิโอ ได้พัฒนากลไกสปริงไดรฟ์ 9R คาลิเบอร์ที่สองของตนขึ้นมา นั่นก็คือ คาลิเบอร์ 9R02 ซึ่งเป็นกลไกชนิดขึ้นลานด้วยมือเช่นเดียวกับ 9R01 แต่มีความหนาเพียง 4 มม. ซึ่งทำให้สามารถประจำการอยู่ในนาฬิกาแนวเดรสที่มีความเพรียวบางในสัดส่วนแบบคลาสสิกได้ ทั้งนี้เป็นผลมาจากตลับลานคู่แบบ ดูอัล สปริง บาร์เรล และใช้ระบบ ทอร์ค รีเทิร์น ซิสเต็ม ซึ่งสามารถนำพลังงานที่สูญเปล่ากลับมาใช้ได้ โดยคาลิเบอร์ 9R02 จะทำงานได้นานถึง 84 ชั่วโมงเมื่อขึ้นลานจนเต็ม และนอกจากที่กลไกอันสง่างามแต่ทรงพลังคาลิเบอร์นี้จะได้รับการออกแบบทางวิศวกรรมมาอย่างยอดเยี่ยมแล้ว สุนทรียภาพที่ได้รับการขัดเกลามาในระดับสูงก็มีความน่าประทับใจไม่แพ้กัน การตกแต่งแนวเส้นละเอียดแบบแฮร์ไลน์บนสะพานจักรและการขัดเงาที่บริเวณแนวขอบนั้นมีคุณภาพสูงเช่นเดียวกับการตกแต่งของคาลิเบอร์ 9R01 อีกทั้งที่มุมด้านในของสะพานจักรขนาดใหญ่ทั้งสองของคาลิเบอร์ 9R02 ยังแสดงให้เห็นถึงระดับของงานฝีมือที่ไม่ค่อยได้พบเห็นกันในการตกแต่งกลไกในสมัยปัจจุบัน นี่คือสิ่งที่ไม่มีเครื่องจักรใดสามารถกระทำได้เสมอเหมือน
ผลงานชิ้นเอกในร่างตัวเรือนแพลทินัมที่ขับเคลื่อนด้วยคาลิเบอร์ 9R02 ได้ทำให้รุ่น SBGZ003 มีชื่อเสียงโด่งดังด้วยรูปทรงที่เพรียวบางและแนวโค้งที่สง่างาม ความสวยงามของนาฬิการุ่นนี้ถูกเสริมเพิ่มพูนด้วยการขัดเงาที่ปราศจากการบิดเบือนของภาพสะท้อน ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของวิธีการแบบซารัตสึ เข็มชั่วโมงและเข็มนาที รวมไปถึงหลักชั่วโมงทุกชิ้น ถูกสร้างขึ้นจากทองขาว 14 กะรัต ในขณะที่ตรา Grand Seiko หลักนาที และเครื่องหมายอื่น ๆ ถูกแกะสลักลงบนพื้นผิวของหน้าปัด
กลไกทั้ง 2 คาลิเบอร์จาก ไมโคร อาร์ติสต์ สตูดิโอ ได้ทำให้ Grand Seiko ก้าวไปสู่ระดับสูงสุดของประดิษฐกรรมนาฬิกาสปริงไดรฟ์ โดยแต่ละรุ่นเป็นการจับคู่ของตัวเรือนและหน้าปัดที่กระทำขึ้นอย่างวิจิตรบรรจงเพื่อสร้างเรือนเวลาที่มีคุณภาพสูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ ผลงานชิ้นเอก นั่นเอง